วันเสาร์ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2553

11ขั้นตอนการเลือกซื้อของขวัญ

เวลาปีๆ หนึ่งมันช่างผ่านไปเร็วซะเหลือเกิน นี่ก็จวนเจียนใกล้ถึงวันที่ต้องหาซื้อของขวัญกันอีกแล้ว นอกจากจะวางแผนสวีทกับคนรักแล้ว หลายคนคงต้องสาละวนกับการเตรียมของขวัญให้คนพิเศษไปพร้อมๆ กันด้วย แล้วเรื่องแบบนี้สนุกเสียเมื่อไหร่ เพื่อทำชีวิตของคุณให้ยุ่งเหยิงน้อยลง เรามีวิธีเลือกซื้อของขวัญอย่างละเอียดยิบมาฝาก ขั้นตอนที่ 1 ลองลิสต์รายชื่อบุคคลที่คุณจะซื้อของขวัญหรือการ์ดให้ในวันปีใหม่ และเรียงลำดับความสำคัญ ว่าควรให้ใครก่อนหลัง ขั้นตอนที่ 2 สำรวจเงินในกระเป๋าตัวเองก่อนว่ามีงบเท่าไรที่จะซื้อของ เพราะถ้ามีงบน้อยก็ไม่ควรซื้อของมากและราคาแพงเกินไป เดี๋ยวจะไม่เหลือเงินไปเที่ยวพักผ่อน ขั้นตอนที่ 3 เสาะหาแหล่งที่จะจับจ่ายซื้อของให้ละเอียดว่าที่ไหนราคาถูกและมีของดีมีคุณภาพ อย่าคิดแต่ว่าต้องไปซื้อหาตามห้างเสมอไป ถ้านึกไม่ออกลองคลิกดูที่ เคล็ดลับนักช็อป หน้า “ แหล่งช็อปปิ้งแสนประหยัดของผู้หญิงวันนี้” ขั้นตอนที่ 4 ควรออกไปสืบราคามาก่อนว่า ของขวัญที่คุณจะซื้อราคาประมาณเท่าไร มีขายที่ไหนบ้าง และถ้าเกิดซื้อจากแหล่งต้นทุน และซื้อทีละหลายๆ ชิ้นจะถูกกว่าหรือไม่ ขั้นตอนที่ 5 คิดไว้คร่าวๆ ว่า ใครคนไหนจะเหมาะกับของแบบไหนอย่างไร เพื่อที่ว่าถึงเวลาไปช็อปปิ้งจริงๆ จะได้ไม่สับสนว่า จะซื้อของชิ้นนี้ให้คนไหนดี ขั้นตอนที่ 6 อย่างที่รู้ๆกันคือ ใกล้ถึงปีใหม่ ห้างสรรพสินค้าชอบลดกระหน่ำซัมเมอร์เซลล์ ลองเปิดดูหน้าโฆษณาตามหน้าหนังสือพิมพ์ ว่ามีห้างไหนลดราคาบ้าง จากนั้นก็ลองไปสืบราคาและคำนวณดูว่าห้างไหนถูกที่สุด และเหมาะที่คุณจะไปช็อปหาของถูกใจให้คนใกล้ชิด ขั้นตอนที่ 7 ตามปกติถ้าคุณซื้อของขวัญในห้างสรรพสินค้า ทางห้างมักจะมีบริการห่อของขวัญให้ฟรี คิดดูแล้วของบางอย่างถ้าเลือกซื้อในห้างก็คุ้มเหมือนกัน เพราะประหยัดกว่ากันตั้งแยะ ดีกว่าคุณไปจ้างเขาห่อหรือห่อเอง เพราะไหนจะค่ากระดาษค่าริบบิ้น เสียทั้งเงินและเวลา หนำซ้ำถ้าห่อไม่สวยอายเขาเปล่าๆ ขั้นตอนที่ 8 อย่าซื้อสินค้าหรือของขวัญที่เพียงแค่มองผ่านชั่ววูบ เพราะแค่วูบที่เห็นแค่สวยผ่านๆ อาจจะทำให้คุณเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์ได้ ขั้นตอนที่ 9 ซื้อของอย่าลืมกฎเหล็ก ต่อรองราคาไว้เถิดจะเกิดผล เพราะเศรษฐกิจยุคนี้ทำให้คนเห็นแก่ตัวมากขึ้น ร้านค้าอาจจะตั้งราคาเกินจริง เราก็ควรต่อรองเพื่อช่วยเซฟเงินในกระเป๋าตัวเอง ขั้นตอนที่ 10 แต่การซื้อของจากแหล่งอื่นๆ ที่ไม่ใช่ห้างสรรพสินค้า อาจถูกก็จริงแต่ต้องดูให้ละเอียด เพราะบางชิ้นอาจมีตำหนิและไม่มีใบประกัน ซึ่งบางเจ้าเราไม่สามรรถขอเปลี่ยนหรือคืนได้เลย ขั้นตอนที่ 11 สำหรับคนที่งบน้อยจริงๆ อาจจะลองทำการ์ดเก๋ๆ ด้วยตัวคุณเองแล้วส่งให้คนที่คุณอยากซื้อของขวัญให้หรือส่งเป็น e-card ไปก็ได้ เพราะบางครั้งของแบบนี้อาจมีค่าทางใจมากกว่าของขวัญราคาแพงซะอีก เชื่อว่าการ์ดใบเดียวไม่ยากเกินความสามารถของคุณ ที่มา http://gift.blog.mthai.com/2008/03/11/public-1

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น