วันพุธที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ส่วนประกอบของบล็อก

ส่วนประกอบที่สำคัญของ Blog
1. ชื่อบล็อก (ฺBlog Title) - ชื่อ Blog นั้น ๆ
2. แท็กไลน์ (Subtitle หรือ Tag line) - คำจำกัดความของเว็บ หรือสโลแกนที่ใช้อธิบายถึงตัวบล็อกโดยรวม โดยตัวแท็กไลน์นี้ จะมีหรือไม่มีก็ได้ เพราะมันไม่สำคัญเท่ากับชื่อบล็อก
3. วันที่และเวลา (Date & Time Stamp) - เป็นวันที่และบางทีอาจมีเวลากำกับอยู่ด้วย ตัววันที่และเวลานี้ จะเป็นตัวบอกว่าบทความในบล็อกนั้นเขียนขึ้นมาเมื่อไหร่ บางครั้งอาจมีวันที่ระบุอยู่ในส่วนของ comment ด้วย ซึ่งจะเป็นการบ่งบอกว่า comment นั้นเขียนเข้ามาเมื่อไหร่เช่นกัน
4. ชื่อบทความ (Entry Title) – ชื่อเรื่องของบทความที่เขียนในบล็อก
5. ตัวเนื้อหาบทความ (Entry’s Main Body) - อาจเป็นตัวหนังสือ หรืออาจเป็นรูปภาพ วีดีโอ หรือ อนิเมชั่น เป็นต้น โดยส่วนประกอบเหล่านี้จะรวมเป็นส่วนเนื้อหาของบทความ
6. ชื่อผู้เขียน (Blog Author) - บางบล็อก อาจมีการระบุชื่อผู้เขียนไว้ในบล็อกด้วย โดยตำแหน่งที่จะใส่ชื่อผู้เขียนนั้น สามารถไว้ที่ตำแหน่งใดก็ได้ เช่นด้านข้างของหน้าบล็อก (sidebar) หรืออยู่ในตัวบทความ
7. คอมเม้นต์ (Comment tag) - เป็นลิงค์ที่ให้ผู้อ่านคลิกไปเพื่อกรอกคอมเม้นต์ให้กับบล็อกนั้น ๆ หรืออ่านคอมเม้นต์ที่มีคนเขียนคอมเม้นต์เข้ามา
8. ลิงค์ถาวร (Permalink) - เพอร์มาลิ้งค์ ลิงค์ตัวนี้คือลิงค์ที่ไปหา url ของบทความนั้น ๆ โดยตรง มีประโยชน์สำหรับ blogger คนอื่น ๆ ที่อยากจะทำลิงค์หาบทความของเราโดยตรง ก็จะสามารถหา permalink ได้ โดย url ของ permalink นี้จะไม่เปลี่ยนไปตามวันและเวลาเหมือน link ของหน้าแรกของบล็อกที่บทความจะเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ
9. ปฎิทิน (Calendar) - บล็อกบางแห่งอาจมีปฎิทินอยู่ด้วย โดยในปฎิทินนั้นสามารถคลิกตามวันที่ เพื่ออ่านบทความของวันที่นั้น ๆ ได้
10. บทความย้อนหลัง (Archives) - บทความเก่า หรือบทความย้อนหลัง อาจมีการจัดเตรียมไว้โดยเจ้าของบล็อก โดยบล็อกแต่ละแห่งอาจจัดเรียงบทความย้อนหลังไม่เหมือนกัน เช่นจัดเรียงรายเดือน รายสัปดาห์ รายวัน หรือจะ list บทความทั้งหมดออกมาเลยก็ได้
11. ลิงค์ไปยังเว็บอื่น (Links) - เป็นจุดเด่นและความสนุกของบล็อกอีกอย่างหนึ่ง โดยบล็อกแต่ละแห่ง อาจมีลิงค์ไปยังเว็บอื่นหลากหลายเว็บ บางครั้งเราสามารถเรียก link พวกนี้ว่า blogroll
12. RSS หรือ XML - ตัว RSS นี้อาจมีเตรียมไว้ให้เราโดยอัตโนมัติขึ้นอยู่กับ Blogware หรือ Blog Host ที่เราเลือกใช้ เช่น WordPress หรือ MovableType นั้นจะมี RSS ลิงค์ไว้ให้เราโดยอัตโนมัติ โดยเจ้า RSS Feed นี้จะช่วยให้ผู้อ่านเข้าถึงบทความของเราได้ง่ายขึ้น โดยการใช้โปรแกรมช่วยอ่าน Feed ได้ด้วย บางครั้งนักเขียน Blog คนอื่น ก็อาจใช้ RSS Feed นี้เพื่อประโยชน์ในการดึงข้อมูลไปแสดงในเว็บ หรือบล็อกของตนได้
ที่มาhttp://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=tuck&month=01-2008&date=24&group=5&gblog=1

ความเป็นมาของบล็อก

Web Log ซึ่งเป็นคำที่คิดขึ้นโดย โจร์น บาร์เกอร์ ในปี ค.ศ.1997 และต่อจากนั้นอีก 2 ปีต่อมา ปีเตอร์ เมอร์โฮลซ์ ซึ่งสร้าง Blog ของตนเอง แล้วตั้งชื่อว่า Blog ทำให้คำว่า Web log ถูกย่อให้เหลือแค่เพียง Blog และกลายเป็นคำฮิตติดปาก ตั้งแต่นั้นมาแต่การเปลี่ยนไอเดียจากกระดานข่าวสู่ Blog นั้น ยังไม่ถือว่าเป็นการประยุกต์ไอเดียเล็ก ๆ มาสร้างธุรกิจใหม่ได้เลยหากไม่มีบริษัทเล็ก ๆ ผู้ให้บริการจัดทำเว็บไซต์ และมี Blog เป็นของตนเอง พวกเขาจึงก่อตั้งเว็บไซต์ Blogger.com ขึ้นมาและหวังว่านี่จะเป็นเว็บไซต์ที่ทำเงินได้ ซึ่งสุดท้าย ฝันก็เป็นจริง เมื่อวันหนึ่งเว็บ Blogger.com ของพวกเขาได้รับคำเสนอซื้อจากยักษ์ใหญ่แห่งวงการเสิร์จเอ็นจิ้นอย่าง Google.com ด้วยมูลค่าที่ใคร ๆ คาดไม่ถึง เนื้อหาใน Blog นั้นประกอบด้วย 3 ส่วน คือ 1. หัวข้อ ( title) 2. เนื้อหา (Post หรือ Content) 3.วันที่เขียน ( Date )

ความหมายของบล็อก

Blog มาจากศัพท์คำว่า WeBlog บางคนอ่านคำ ๆ นี้ว่า We Blog บางคนอ่านว่า Web Log แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ทั้งสองคำบ่งบอกถึงความหมายเดียวกัน ว่านั่นคือบล็อก (Blog) ความหมายของคำว่า Blog ก็คือการบันทึกบทความของตนเอง (Personal Journal) ลงบนเว็บไซต์ โดยเนื้อหาของ blog นั้นจะครอบคลุมได้ทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวส่วนตัว หรือเป็นบทความเฉพาะด้านต่าง ๆ เช่น เรื่องการเมือง เรื่องกล้องถ่ายรูป เรื่องกีฬา เรื่องธุรกิจ เป็นต้น โดยจุดเด่นที่ทำให้บล็อกเป็นที่นิยมก็คือ ผู้เขียนบล็อก จะมีการแสดงความคิดเห็นของตนเอง ใส่ลงไปในบทความนั้น ๆ โดยบล็อกบางแห่ง จะมีอิทธิพลในการโน้มน้าวจิตใจผู้อ่านสูงมาก แต่ในขณะเดียวกัน บางบล็อกก็จะเขียนขึ้นมาเพื่อให้อ่านกันในกลุ่มเฉพาะ เช่นกลุ่มเพื่อน ๆ หรือครอบครัวตนเองมีหลายครั้งที่เกิดความเข้าใจกันผิดว่า Blog เป็นได้แค่ไดอารี่ออนไลน์ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ไดอารี่ออนไลน์เปรียบเสมือน เนื้อหาประเภทหนึ่งของบล็อกเท่านั้น เพราะบล็อกมีเนื้อหาที่หลากหลายประเภท ตั้งแต่การบันทึกเรื่องส่วนตัวอย่างเช่นไดอารี่ หรือการบันทึกบทความที่ผู้เขียนบล็อกสนใจในด้านอื่นด้วย ที่เห็นชัดเจนคือ เนื้อหาบล็อกประเภท วิจารณ์การเมือง หรือการรีวิวผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ตัวเองเคยใช้ หรือซื้อมานั่นเอง อีกทั้งยังสามารถ แตกแขนงไปในเนื้อหาในประเภทต่าง ๆ อีกมากมาย ตามแต่ความถนัดของเจ้าของบล็อก ซึ่งมักจะเขียนบทความเรื่องที่ตนเองถนัด หรือสนใจเป็นต้น
จุดเด่นที่สุดของ Blog ก็คือ มันสามารถเป็นเครื่องมือสื่อสารชนิดหนึ่ง ที่สามารถสื่อถึงความเป็นกันเองระหว่างผู้เขียนบล็อก และผู้อ่านบล็อกที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย ที่ชัดเจนของบล็อกนั้น ๆ ผ่านทางระบบ comment ของบล็อกนั่นเองในอดีตแรกเริ่ม คนที่เขียน Blog นั้นยังทำกันในระบบ Manual คือเขียนเว็บเองทีละหน้า แต่ในปัจจุบันนี้ มีเครื่องมือหรือซอฟท์แวร์ให้เราใช้ในการเขียน Blogได้มากมาย เช่น WordPress, Movable Type เป็นต้นผู้คนหลายล้านคนจากทั่วทุกมุมโลก หันมาเขียน Blog กันอย่างแพร่หลาย ตั้งแต่นักเรียน อาจารย์ นักเขียน ตลอดจนถึงระดับบริษัทยักษ์ใหญ่ในตลาดหุ้น NasDaq เมื่อสองสามปีที่ผ่านมา Blog เริ่มต้นมาจาก การเขียนเป็นงานอดิเรก ของกลุ่มสื่ออิสระต่าง ๆ หลาย ๆ แห่งกลายเป็นแหล่งข่าวสำคัญ ให้กับหนังสือพิมพ์หรือสำนักข่าวชั้นนำ จวบจนกระทั่งปี 2004 คนเขียน Blog ก็ได้รับการยอมรับจากสื่อและสำนักข่าวต่าง ๆ ถึงความรวดเร็วในการให้ข้อมูล ตั้งแต่เรื่องการเมือง ไปจนกระทั่ง เรื่องราวของการประชุม ระดับชาติและจากเหตุการณ์เหล่านี้ นับได้ว่า Blog เป็นสื่อชนิดหนึ่งที่ไม่ต่างจาก วีดีโอ , สิ่งพิมพ์ , โทรทัศน์ หรือแม้กระทั่งวิทยุ เราสามารถเรียกได้ว่า Blog ได้เข้ามาเป็นสื่อชนิดใหม่ ที่สำคัญอย่างแท้จริง
สรุปให้ง่าย ๆ สั้น ๆ ก็คือ Blog คือเว็บไซต์ ที่มีรูปแบบเนื้อหา เป็นเหมือนบันทึกส่วนตัวสออนไลน์ มีส่วนของการ comments และก็จะมี link ไปยังเว็บอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องอีกด้วย

วันศุกร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2553

เส้นสิบ

เพลงเส้นสิบ
อิทาปิงคลาเป็นชื่อเส้น จำเป็นต้องรู้เส้นสุมนา กาลทารีออกสองข้างแขนขา กาลทารีออกสองข้างแขนขา สหัสรังษีคือตาซ้ายขวาทุกวารี จันทะภูสังหูซ้ายจะได้กล่าว รูทังนั้นเล่าอยู่หูขวานั่นยังไง สุขุมังของเสียหนักไหลออกไป สุขุมังของเสียหนักไหลออกไป สิขินีนี่ไงทวารเบาเขากล่าวมา ร่างกายคนเราท่านสอนว่า มีธาตุ4ขันธ์5คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ ประกอบขึ้นมาเขาเรียกว่าร่างกาย ประกอบขึ้นมาเขาเรียกว่าร่างกาย อีกไม่นานต้องตายขอจงได้ทำดี มีความฮู้ ความฮู้ จากคุณครูเพิ่นสอนสั่ง เพิ่นนั่นหวังว่าสิให้ ไทยเฮานั่งฮุงเจริญ เพิ่นจั่งเอิ้นว่าครูนวดแผนไทย รุ่นอบรมซิจบไป ไฮ่ซอยไทยเฮาเด้อจ้า

วันพุธที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ตารางธาตุ

ตารางธาตุ
ทุกๆสิ่งในโลกล้วนมีธาตุ (element) เป็นองค์ประกอบทั้งสิ้น ธาตุไม่สามารถแบ่งแยต่อไปได้อีก หรือทำให้เปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งใดที่เรียบง่ายได้ด้วยปฏิกิริยาเคมี ธาตุหลายชนิด เช่น ทองคำ เงิน และตะกั่ว เป็นธาตุที่รู้จักกันมานานหลายพันปี แต่ธาตุบางชนิด เช่น ดาร์มสแทดเชียม (Darmstadtium) เพิ่งมีการสังเคราะห์ขึ้นในห้องปฏิบัติการเทคโนโลยีชั้นสูงเท่านั้น ในช่วงทศวรรษ 1990
ตารางธาตุเกิดขึ้นจากนักเคมีชาวไซบีเรียชื่อ ดีมีตรี เมนเดเลเยฟ (Dimitri Mendelejev) ในปีค.ศ.1869 เขาได้พยายามจัดเรียงธาตุต่างๆที่รู้จักกันในเวลานั้นออกเปนแถวในแนวตั้งเรียกว่า หมู่(Group) และแถวในแนวนอนเรียกว่า คาบ(Period) ทิ้งช่องโหว่ไว้สำหรับธาตุที่ยังไม่มีการค้นพบในเวลานั้น 111 ช่อง แต่อย่างไรก็ตามอาจมีธาตุอื่นๆที่ยังไม่ถูกค้นพบได้มากกว่านี้อีก หมู่ธาตุในตารางธาตุตามแนวตั้งจะประกอบกันเป็นวงศ์(family)ซึ่งทุกๆธาตุในวงศ์เดียวกันจะมีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิดและชอบทำปฏิกิริยาเคมีคล้ายๆกัน

วันอังคารที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ข้อมูลส่วนตัว

เด็กหญิงจริยา มุ่งดี
ทุกคนเรียก ขวัญ
กำลังเรียนอยู่ ม.3โรงเรียนศรีสมเด็จพิมพ์พัฒนาวิทยา